หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) ออกตัวเชียร์ม็อบ HKTV
“หลิวเต๋อหัว” (Andy Lau) เป็นนักแสดงอีกคน ที่มีจุดยืนสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลฮ่องกง ในกรณีสถานโทรทัศน์เกิดใหม่ HKTV ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการฟรีทีวีโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน และนำมาซึ่งประเด็นสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของคนฮ่องกง จนมีข่าวลือว่าเขาอาจจะโดนทางการจีนแบน แต่การเดินทางเข้าไปทำงานที่ปักกิ่งในอีกไม่กี่วันต่อมา ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าพระเอกอันดับ 1 แห่งฮ่องกงยังไม่ได้โดนแบนแต่อย่างใด
กระแสประท้วงรัฐบาลฮ่องกง ที่ไม่ยอมออกใบอนุญาตประกอบกิจการฟรีทีวีให้กับ HKTV สถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลให้โอกาสสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ หลังรัฐบาลปฏิเสธออกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจให้กับ HKTV และไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
ซึ่งชาวฮ่องกงได้แสดงความเห็นพ้องกันว่า ทีวีช่องใหม่ จะเป็นโอกาสในการรับรู้ข่าวสารของชาวฮ่องกง และบางส่วนยังเริ่มแสดงความไม่พอใจในรัฐบาลท้องถิ่นของพวกเขา จนไปถึงรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ส่อเจตนาปิดหูปิดตาประชาชน ด้วยการไม่ยอมให้มีสถานีทีวีเจ้าใหม่ จากที่ประชาชนชาวฮ่องกงมีทางเลือกแค่ไม่ TVB ก็ ATV มานานหลายปี
โดยมีนักแสดงชื่อดังมากมายที่ร่วมประท้วง บางส่วนก็แสดงความคิดเห็นสนับสนุน และให้กำลังใจประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร ซึ่งล่าสุด หลิวเต๋อหัว นักแสดงที่ชื่อว่าดังที่สุดในฮ่องกงในยุคนี้ก็เอ่ยปาก และส่งสารถึงผู้ประท้วง เพื่อให้กำลังใจ และเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนการประท้วงของเขาด้วย
หลิวเต๋อหัว ที่ครั้งหนึ่งเคยพูดเล่น ว่าเขาน่าจะดังพอที่จะเป็นผู้ว่าการเกาะฮ่องกงได้ เริ่มต้นกล่าวผ่านคลิปวิดีโอถึงเหล่าผู้ประท้วงว่า “นี่ผู้ว่าการเกาะกำลังพูดครับ” ก่อนจะให้กำลังใจทุกคนที่ออกมาสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ
การตัดสินใจดังกล่าวของ หลิวเต๋อหัว ได้ทำให้แฟนๆจำนวนไม่น้อย เริ่มเป็นห่วงเขาขึ้นมาทันที ว่าอาจจะต้องเจอผลกระทบอะไรบางอย่าง เมื่อแสดงจุดยืนแบบนี้ออกไป อย่างไรก็ตามต่อมาอีกไม่กี่วันนักแสดงวัย 52 ปี ได้เดินทางเข้าไปโปรโมตหนังเรื่องใหม่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ โดยการทำงานเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งก็พอจะยืนยันว่าเขายังไม่ได้ถูกทางการจีนแผ่นดินใหญ่แบนอย่างที่แฟนๆกังวลกันแต่อย่างใด
โดยในงานมีผู้สื่อข่าวหลายคนที่พยายามจะถาม หลิวเต๋อหัว ถึงการแสดงความเห็นไปในทางเข้าข้างผู้ประท้วง แต่ผู้อำนวยการสร้างของหนังได้เข้ามาแทรก และร้องขอทางสื่อมวลชนว่าอยากให้พูดคุยเกี่ยวกับหนังเป็นหลักมากกว่า
